ในโลกของการธนาคารและการเงิน อัตราดอกเบี้ยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดต้นทุนการกู้ยืมและความสามารถในการทำกำไรของสถาบันการเงิน ในบรรดาอัตราดอกเบี้ยประเภทต่างๆ Minimum Loan Rate (MLR) Minimum Retail Rate (MRR) และ Minimum Overdraft Rate (MOR) เป็นข้อควรรู้สำคัญที่ทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้จำเป็นต้องทำความเข้าใจ บทความนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อให้ภาพรวมที่ครอบคลุมของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหล่านี้ โดยอธิบายคำจำกัดความ พร้อมยกตัวอย่างการคำนวณให้ทุกคนได้ทราบกัน
Minimum Loan Rate (MLR)
Minimum Loan Rate (MLR) หรือที่เรียกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี คำว่าชั้นดีนั้น หมายถึงมีเครดิตการเงินดี หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกันพร้อมในการกู้ยืมสินเชื่อ MLR แสดงถึงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ทำหน้าที่เป็นพื้นฐานในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากสินเชื่อประเภทต่างๆ ที่เสนอโดยสถาบัน โดยทั่วไป MLR จะขึ้นอยู่กับต้นทุนทางการเงินโดยรวมของธนาคาร ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เป็นอยู่ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสถาบัน และอัตรากำไรที่ต้องการ
MLR ปกติแล้วจะใช้กับผู้กู้รายใหญ่ที่มีคะแนนเครดิตดีและมีสามารถสร้างความน่าเชื่อถือนให้แก่ผู้ปล่อยกู้ ซึ่ง MLR จะถูกนำมาใช้กับสินเชื่อระยะยาว เช่นสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ
ตัวอย่างการคิดอัตราดอกเบี้ย MLR
- สินเชื่อส่วนบุคคล MLR: 8%
- อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล : MLR - 2%
- สมมติว่า MLR สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลคือ 8% และธนาคารเสนอการลดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่ 2% อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลของคุณจะเท่ากับ 6%
Minimum Retail Rate (MRR)
Minimum Retail Rate (MRR) เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี เครดิตดี ไม่สร้างหนี้เสียคงค้าง MRR มักถูกใช้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถยนต์ และการจำนอง
เช่นเดียวกับ MLR.. MRR ทำหน้าที่เป็นอัตรามาตรฐาน แต่รวมข้อพิจารณาเพิ่มเติมเฉพาะสำหรับสินเชื่อรายย่อย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ MRR อาจรวมถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ค่าใช้จ่ายในการจัดการสินเชื่อรายย่อย และสภาพการแข่งขันของตลาดสินเชื่อรายย่อย
ตัวอย่างการคิดอัตราดอกเบี้ย MRR
- บัตรเครดิต MRR: 10%
- อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต: MRR - 2.75%
- ในตัวอย่างนี้ หาก MRR สำหรับบัตรเครดิตคือ 10% และธนาคารใช้การลดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่ 2.75% อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตของคุณจะเท่ากับ 7.25%
Minimum Overdraft Rate (MOR)
Minimum Overdraft Rate (MOR) คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (ประเภทเบิกเกินบัญชี) หรือพูดง่ายๆ คืออัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากรายใหญ่ที่เบิกเกิน OD ซึ่งเมื่อลูกค้าได้เบิกวงเงินกินบัญชี ทางธนาคารจึงต้องเข้มงวดในการปล่อยกู้มากขึ้น เช่น ต้องพิจารณาประวัติทางการเงิน และหลักทรัพย์ค้ำประกัน
อัตรา MOR ถูกคิดจากปัจจัยต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการให้กู้ยืมเงินเบิกเกินบัญชี ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่ธนาคารจะเรียกเก็บส่วนต่างเพิ่มเติม เพื่อรองรับความเสี่ยงเฉพาะและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เกี่ยวข้องกับวงเงินเบิกเกินบัญชี
ตัวอย่างการคิดอัตราดอกเบี้ย MOR
- OD MOR : 6%
- OD : MOR - 2%
- หาก MOR เท่ากับ 6% และธนาคารให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ลดลง 2% อัตราดอกเบี้ยสำหรับวงเงินเบิกเกินบัญชีของคุณจะเท่ากับ 4%
โปรดทราบว่าตัวอย่างเหล่านี้ใช้เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่เสนอโดยสถาบันการเงินอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความน่าเชื่อถือทางเครดิต ระยะเวลาเงินกู้ สภาวะตลาด และนโยบายเฉพาะของสถาบันให้กู้ยืม ดังนั้นขอแนะนำให้คุณเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากผู้ให้กู้รายต่างๆ ทั้งหมดก่อนตัดสินใจกู้เงิน และเจรจาเพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการและสถานการณ์การเงินของคุณ
Minimum Loan Rate (MLR), Minimum Retail Rate (MRR) และ Minimum Overdraft Rate (MOR) เป็นเกณฑ์มาตรฐานอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญที่สถาบันการเงินใช้ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับสินเชื่อ และผลิตภัณฑ์การเงินต่างๆ การทำความเข้าใจอัตราเหล่านี้ช่วยให้ผู้กู้สามารถตัดสินใจทางการเงินได้อย่างชาญฉลาด ในขณะที่ผู้ให้กู้ใช้อัตราเหล่านี้เพื่อจัดการความเสี่ยงและความสามารถในการทำกำไร